วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Fic KAIHUN นายอัศวินกับคุณหลวงอัษฎา ; ตอนที่ ๑ คุณหลวงอัษฎาพาท่องภูเขาทอง



ตอนที่ ๑
คุณหลวงอัษฎาพาท่องภูเขาทอง



แฮชแท็ก ; #คฮคุณหลวงอัษฎา

X คำเตือน X
ฟิคเรื่องนี้มีเนื้อหาอิงตามประวัติศาสตร์ไทยยุคสมัยในตอนปลายของรัชกาลที่ ๕ ถึง
รัชกาลที่ ๖ บางส่วนมีการปรับแก้เสริมแต่งขึ้นตามใจผู้เขียน
กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านนะก๊ะ ; )
X คำเตือน X







        ปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ามีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายแต่อย่างไรบ้านเมืองก็ยังคงดูสงบสุขภายใต้ร่มพระบารมีของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ คุณหลวงอัษฎา ณ เชียงใหม่ ได้กลับมายังบางกอกหลังเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อเคารพพระศพของท่านปู่หรือพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ ๗ เนื่องจากคุณหลวงอัษฎาหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า คุณหลวงอัษท่านเป็นคุณผู้ชายที่ดำรงเชื้อสายเจ้าจากเชียงใหม่ท่านสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าอินทวิชยานนท์

คุณหลวงเป็นหลานชายคนสนิทของพระเจ้าอินทวิชยานนท์หรือชื่อเดิมคุณปู่อินทนนท์ การจากไปคราวนี้ของคุณปู่ทำให้คุณหลวงอัษฎาเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้คุณหลวงจะย้ายตามหม่อมอ้อม มารดาของคุณหลวงมาจากเชียงใหม่ไปพำนักอยู่ที่บางกอกทันทีตั้งแต่เรียนจบจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย แต่คุณหลวงก็ยังเขียนจดหมายติดต่อกับท่านปู่อินทนนท์อยู่เสมอ

        สมัยเด็กๆคุณปู่มักจะบอกกับนายน้อยอัษฎาเสมอว่า รู้อะไรก็ไม่เท่า รู้วิชา ให้อะไรก็ไม่เท่า ให้การศึกษา คุณหลวงจึ่งได้เข้ารับการศึกษาเต็มหลักสูตรอีกทั้งยังเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีมาตั้งแต่สมัยที่ศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยจนกระทั่งมาศึกษาต่อที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบคุณหลวงก็ยังคงรักษาความเป็นนักเรียนดีเด่นได้ดีอย่างไม่มีที่ติ เพราะน้อยคนนักที่จะเรียนหนังสือซึ่งพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้รวบรวมไว้จนจบครบหมดทั้ง ๖ เล่มได้แก่ มูลบทบรรพกิจ วาหนิตนิกร อักษรพิโยค สังโยคพิธาน ไวพจน์พิจารณ์ และพิศาลการันต์

 ถึงครานี้ แม้คุณปู่จะจากไปแล้วแต่คุณปู่ก็ยังทิ้งสมบัติล้ำค่าไว้ให้คุณหลวงอัษฎาเป็นของขวัญชิ้นสุดท้าย นั่นก็คือ หนังสือ The Sleeper and the Waker ฉบับภาษาอังกฤษที่คุณหลวงปรารถนานั่นเอง

คุณหลวงเปิดหน้าหนังสือหน้าแรกก็พบว่ามีจดหมายน้อยจากท่านปู่ฝากมาถึง


พ่ออัษหลานรัก
หากหลานได้อ่านจดหมายน้อยฉบับนี้ ขอให้หลานรู้ไว้ว่า
วาสนาปู่คงไม่พออยู่ทันเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียแล้ว
แต่ช่างปะไร ปู่ขอมอบหนังสือเล่มนี้ไว้เป็นของขวัญและเป็นตัวแทนของปู่ก็แล้วกัน
ปู่มั่นใจว่าพ่ออัษต้องยินดีจนน้ำตาออกเป็นแน่
ปู่ภูมิใจที่มีหลานอย่างพ่ออัษ
ถึงปู่จะจากไปแล้วก็ขอให้พ่ออัษมีนิสัยรักการอ่านเช่นนี้เสมอ
นี่เป็นคำสอนสุดท้ายจากปู่ ขอให้หลานจำให้ขึ้นใจ
ถึงวงศ์ของเราจะเป็นเจ้านาย เป็นคนใหญ่โต จงอย่าถือดี อย่าหัวสูง
ปู่อยากให้พ่ออัษไปพบปะสมาคมกับผู้หญิงเสียบ้าง อายุอานามก็มิใช่น้อยๆ
๒๘ แล้วนะพ่ออัษ หากเทียบกับปู่ ๒๘ นี้ปู่มีเมียแล้ว ๔ ราย
นี่แหละที่ปู่จะสอน หาเมียได้แล้วพ่ออัษ

                                                        ด้วยรัก ท่านปู่อินของหลาน
 

        คุณหลวงหัวเราะทั้งน้ำตาตอนอ่านจดหมายน้อยจากท่านปู่จบ ท่านปู่อินทนนท์ยังคงอารมณ์ขันเหมือนเคย คุณหลวงอัษฎายิ้มให้กับข้อความที่เขียนด้วยปากกาคอแร้งจุ่มน้ำหมึกยี่ห้อเกฮาร์ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นหยดสุดท้ายก่อนจะตอบรับในใจถึงคำสั่งเสียที่ท่านปู่ทิ้งไว้

ได้ครับ ท่านปู่ ศกนี้อัษฎาจะหาเมียดีๆสักคน(พอ) ๔ คนเหมือนท่านปู่เห็นทีคงไม่ไหว

ด้วยความที่คุณหลวงอัษฎามีเชื้อสายเป็นคนเชียงใหม่จึงทำให้มีผิวพรรณที่ขาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง แม้ร่างกายเป็นชายแต่คุณหลวงกลับมีใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน แพขนตายาว สันจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มสีสด เรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่มีความงามไม้แพ้หญิงสาวเลยทีเดียว เป็นเพราะคุณหลวงได้เชื้อมาจากมารดา หม่อมอ้อม หล่อนเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามล้นเหลือ ชายหนุ่มที่ไหนได้เห็นเป็นต้องเหลียวหลังมอง ผิวขาวอมชมพู ทรวดทรงองเอว จริตจะก้านสมกับเป็นนายหญิงแห่งวงศ์ตระกูลอันสูงศักดิ์ คุณหลวงอัษฎาได้รับการถ่ายทอดทั้งความงามของใบหน้า เรือนร่างระหง ขายาวสูงชะลูด อีกทั้งกริยามารยาทชนชั้นสูงของมารดา คุณหลวงได้รับมาเต็มๆ

เช้าวันต่อมา คุณหลวงอัษฎาประสงค์จะตักบาตรพระสงฆ์ที่ริมคลองบางรักบริเวณท้ายตำหนักชวนชมของคุณหลวง คุณเขาจึงให้เหล่าคนใช้เตรียมสำรับอาหารทั้งหมด ๑๐ ชุด ๙ ชุดสำหรับพระสงฆ์ อีก ๑ ให้กับนายอัศวิน พ่อหนุ่มผิวแทนที่คอยพายเรือขายถ่านเลียบคลองบางรักมาหลายขวบปี คุณหลวงตักบาตร อาราธนาศีล อาราธนาธรรมเสร็จก็บอกให้แม่ช้อย หญิงแก่ที่คอยรับใช้มารดาให้เก็บของกลับเข้าตำหนักไปก่อน คุณหลวงจะสนทนากับพ่ออัศวินอย่างส่วนตัวเสียหน่อย

ไม่นานนักพ่อหนุ่มขายถ่านก็พายเรือสำปั้นขนาด ๘ ศอกที่บรรทุกถ่านเต็มลำ มาเทียบท่าท้ายตำหนักคุณหลวงอัษฎา ฟันขาวๆโผล่ออกมาจากรอยยิ้มพิมพ์ใจของพ่ออัศวินชวนให้คุณหลวงเผลอหัวเราะอ่อนก่อนจะลุกขึ้นไปช่วยดึงเชือกให้เรือเข้าเทียบท่าได้ถนัดถนี่

รับนี่ไปสิ สบายดีหรือพ่อคนขายถ่าน

        คุณหลวงทักพร้อมยื่นสำรับอาหารที่ทำเผื่อมาให้อัศวิน

ขอบพระคุณขอรับคุณหลวง ข้าสบายดี แลไม่เห็นหน้าเห็นตาหลายวันนัก ไปทรงงานไกลหรือคุณหลวง    
ท่านปู่ของเราถึงแก่พิราลัย เราจึ่งไปเคารพพระศพยังเชียงใหม่ ว่าแต่คุณหลวงกระไรกัน เราบอกกี่หนแล้ว อย่าเรียกเราห่างเหินเช่นนั้นสิพ่ออัศวิน

        คุณหลวงท้วงเมื่อพ่อหนุ่มขายถ่านใช้สรรพนามไม่ตรงใจ

เสียใจกับเรื่องท่านปู่ด้วยคุณหลวง
ขอบใจพ่อหนุ่ม แต่พ่ออัศวินนี่พูดไม่รู้จักฟัง เราบอกให้เรียกเราเพียงคุณอัษก็พอ เราจะเรียกนายอัศวินว่าพ่อวินเช่นกัน หรือพ่ออัศวินคิดเห็นอย่างไร?
ทูลหัวของกระหม่อม ท่านว่าอย่างไร ข้าก็ว่าตามท่านนั้นแล บุญของอ้ายวินแท้ๆที่ท่านยอมลดตัวลงมาเสวนาพาทีกับคนอย่างข้า

        คนขายถ่านส่งยิ้มชวนฝันมาให้อีกระลอกแต่กลับถูกคุณหลวงเอ็ดเข้า

เราบอกว่าอย่างไรพ่อวิน เรียกเราว่าคุณอัษพอ ไหนลองเรียกชื่อเราซิ...
...คุณอัษ

        คนฟังทำตามอย่างว่าง่าย

ดี นั่นแหละที่เราอยากฟัง อ้อ พ่ออัศวิน เรามีเรื่องอยากจะขอ รับปากได้ไหมว่าจะตามใจเรา
ข้ารับปาก มีเหตุใดให้ข้าช่วยหรือคุณอัษ
เราได้ยินว่าในฤดูน้ำหลากนี้ที่ทุ่งภูเขาทองมักจัดงานรื่นเริงใหญ่โตเป็นประจำ ท่านปู่เคยเล่าว่าขนมจีนน้ำพริกของแม่หญิงอ่อนรสชาติดีนักหามีที่ใดเทียบไม่ หากพ่ออัศวินจะเมตตา โปรดพาเราไปเยี่ยมเยียนภูเขาทองสักครั้งด้วยฝีพายของพ่อวิน

        ดวงตาที่เป็นประกายของคุณหลวงเมื่อเอ่ยถึงขนมจีนน้ำพริกทำเอาหัวใจของนายอัศวินกระตุกวูบ คุณหลวงเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ไม่มีใครในแถบคลองบางรักเทียบได้จริงๆ

ว่าอย่างไรล่ะ พ่ออัศวิน
ตกลงขอรับคุณอัษ ค่ำนี้ ๑๙.๐๐ นาฬิกา ข้าจะมารับ
ขอบใจที่เมตตาเราพ่อวิน แล้วพบกัน”
แล้วพบกันขอรับคุณหลวง เอ๊ย คุณอัษ ว่าแต่จะไม่รับถ่านไปสักกระผีกหนึ่งหรือขอรับ?"



#คฮคุณหลวงอัษฎา



รอนานไหมพ่ออัศวิน พอดีเรากับหม่อมออกไปพบคุณหญิงเรไรที่ตำหนักเวศวรุตน์ สนทนากันเสียเพลิน เกือบกลับมามิทัน อภัยเราเถิดพ่อวิน
กระหม่อมมิบังอาจถือโทษคุณหลวงหรอก ลงเรือเถิดประเดี๋ยวจะไปไม่ทันขนมจีนน้ำพริกแม่หญิงอ่อนที่คุณอัษปรารถนา
เราขอบใจ

        คุณหลวงยิ้มแล้ววางมือลงบนฝ่ามือกร้านของพ่อคนขายถ่านที่รอรับอยู่ เรือสำปั้นลำเดิมพายออกจากบางรักไปตามลำคลอง มีทั้งคลองขุดด้วยฝีมือชาวบ้าน และคลองตามธรรมชาติที่ขุดให้เชื่อมถึงกัน เรือสำปั้น ๘ ศอก ล่องไปตามคลองบางรัก มุ่งไปยังคลองมหานาคออกไปถึงนางเลิ้ง ฤดูน้ำหลากนี้สามารถพายเรือเที่ยวได้สบายๆ คุณหลวงอัษฎาชมความงามของธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพรริมคลอง อีกทั้งยังมีสัตว์นานาชนิดคอยให้สอดส่อง เก้ง กวาง มีมากเหลือ บ้างก็นอนหลับ บ้างก็อิงแอบแนบชิดกันตามประสาฤดูสัตว์ผสมพันธุ์

        งานประจำปีเดือน ๑๑ ที่ภูเขาทอง ยิ่งใหญ่สมกับได้ยินเสียงเล่าเสียงลือ แสงไฟประดับดาประเต็มสองข้างทาง ผู้คนมากมายพากันออกมาเที่ยวเล่น เหล่าพ่อค้าแม่ค้าต่างพาเรือลำเล็กลำใหญ่มากันคับคั่ง มีทั้งเรือสำปั้นแบบของนายอัศวิน เรือแจว เรือกระแชง หรือแม้แต่เรือหางยาว คุณหลวงรีรอไม่ไหวที่จะลิ้มรสขนมจีนน้ำพริกของแม่หญิงอ่อน จึ่งเร่งเร้าให้อัศวินพายเรือตรงดิ่งไปหาขนมจีนอย่างเร็วไว

ขนมจีนน้ำพริกราคาแพงกว่าก๋วยเตี๋ยวถึง ๒ อัฐ แต่เพียงคำแรกคุณหลวงอัษฎาก็แทบสำลักในรสชาติที่ไร้ที่ติ คุณหลวงยื่นกะลาที่ใช้เป็นถ้วยใส่สำรับอาหารให้อัศวินลิ้มรส แม้นพ่อหนุ่มขายถ่านจะบ่นว่าแพงแสนแพง ขนมจีนถ้วยหนึ่งราคาถึง ๔ อัฐแต่พ่อก็ยังเอ่ยขอถ้วยที่สองจากแม่หญิงอ่อน สบายพุงกะทิน้อยๆของหนุ่มๆทั้งสองไป อัศวินประนมมือไหว้ขอบพระคุณคุณหลวงเสียยกใหญ่ที่มื้อนี้คุณหลวงใจป้ำเลี้ยงอาหารราคาแพงถึง ๒ สตางค์ เพราะโดยปกติแล้ว ๑ สตางค์เอาไปเปลี่ยนเป็นปลาทูได้ถึง ๔ เข่ง ปลาทู ๔ เข่งนี้อยู่กินกันในครอบครัวของอัศวินได้โดยมาก ๔ วัน เป็นบุญของอัศวินจริงๆที่มีคุณหลวงอัษฎาคอยเมตตาอยู่เป็นนิตย์

คุณหลวงอิ่มเอมเปรมปรีดิ์กับการท่องเที่ยวตลาดน้ำงานวัดภูเขาทองไม่ลืมที่จะแวะชิมขนมอีกสองสามชนิด อัศวินยอมควักเบี้ยที่เก็บหอมรอมริบออกมาซื้อขนมหันตรามอบให้คุณหลวงเป็นการตอบแทน คุณหลวงเบิกตากว้างมองอัศวินด้วยแววตาสงสัย อัศวินจะรู้หรือไม่ว่าการมอบขนมหันตรานี้ให้แก่ใครนั้นมีความหมายว่าอย่างไร

ก่อนกลับตำหนัก คุณหลวงและอัศวินพากันขึ้นเรือไปสักการะและปิดทองพระบรมสารีริกธาตุบนองค์บรมบรรพตอันเป็นมงคลสูงสุด ผ้าแดงผืนใหญ่ห่มรอบภูเขาทองเป็นสัญลักษณ์ว่างานรื่นเริงประจำปีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สองหนุ่มเดินทอดน่องไปตามทาง เก็บเอาบรรยากาศและความสุขกลับไปเต็มหัวใจ เพียงได้เดินเคียงข้างกันไปเช่นนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาต้องการอีกแล้ว



... 




ขอบใจจริงๆ หากไม่มีพ่อวินเราคงไม่มีโอกาสได้ออกมาเที่ยวเล่นยามราตรีเช่นนี้
        คุณหลวงเอ่ยเมื่ออัศวินพาเรือพายกลับมายังตำหนัก
ยินดีขอรับทูนหัวของกระหม่อม
จริงสิ พ่อวินสนใจจะมาเป็นเลขาฯคนสนิทของเราหรือไม่ ผู้ช่วยคนเก่าของเรา อาทองสุขแกขอกลับไปเลี้ยงลูกเมียที่บ้านเกิด ตอนนี้เรากำลังหาผู้ช่วยคนใหม่
ข้าเกรงว่าจะช่วยท่านได้ไม่มากนักคุณหลวง ตัวข้ามิได้ร่ำเรียนวิชาใดๆมากพอ เพียงแบบเรียนเร็ว ๓ เล่ม ความรู้คงมิอาจเทียบเคียงคุณอาทองสุขได้
เรารู้ เราจึ่งอยากให้พ่อวินเข้าเรียนที่ตำหนักสวนกุหลาบเสียก่อน เราจะเป็นผู้ส่งเสียให้เอง ปีนี้พ่อวินอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์เราจำได้ เกณฑ์ทหารเรียบร้อย ทุกวันนี้ก็ประกอบอาชีพเพียงแค่ขายถ่าน พ่ออัศวินคงจะหามีเหตุอื่นใดไม่มาปฏิเสธเรา

        อัศวินรู้สึกเหมือนถูกคุณหลวงมัดมือชกก็คราวนี้ ก็จริงอย่างที่คุณหลวงว่าปีนี้อัศวินมีอายุครบ ๒๑ ปี ผ่านเกณฑ์ทหารมาครบตามกำหนด แท้จริงแล้วอัศวินสามารถออกทำงานเป็นเสมียนได้เพียงแต่อัศวินอยากจะดำรงคงอยู่อาชีพของตระกูลไว้ การขายถ่านที่เป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวสยาม

คุณอัษ ข้าอยากให้ท่านกลับไปตรองดูใหม่ว่าการจะให้ข้าเป็นถึงเลขาฯนั้นสมควรแล้วหรือ..”
“นั่นนายอัศวินกำลังต่อว่าเรา?
มิบังอาจขอรับคุณหลวง กระหม่อมเพียงแต่อยากให้ท่านลองตรึกตรองดูอีกสักหน
ก็ได้ ตามใจนาย อัศวิน…”

        ทำไมตามใจของกระผมถึงได้ดูเหมือนต้องตามใจคุณหลวงมากกว่าล่ะขอรับ? 


๑๐๐ %


*ขนมหันตราหรือขนมฝอย เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในงานหมั้น ซึ่งแสดงถึงการตีตราจองว่าหญิงนั้นมีคู่หมั้นแล้ว ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือกที่นำมากวนกับน้ำตาลทรายแล้วปั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ กดตรงกลางให้บุ๋มแล้วมาห่อด้วยไข่ที่ทำเป็นตาราง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น