SF ; จงอิน x เซฮุน ชายผู้มากับสายฝน
แฮชแท็ก ; #ชายผู้มากับสายฝน
[คุณอิน x คุณโอ] ชายผู้มากับสายฝน
[ 3 สิงหาคม 2558 , 17.45น. ]
พยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครฯประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2558 มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
เปาะ แปะ .. เปาะ แปะ ..
ซ่า…
“ให้ตายสิ..”
หากถามว่าสิ่งที่ไม่ชอบคืออะไรสิ่งแรกที่อิทธิพัทธ์หรือสถาปนิกอินจะตอบได้ทันทีอย่างไม่ลังเลใจก็คือ ‘ฝน’ อินคิดว่าบรรยากาศในยามฝนตกมันชวนให้หดหู่อย่างน่าประหลาดและเขาไม่ชอบพกร่ม นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมอินถึงต้องพาร่างสูง 182 เซนติเมตรของตนเข้ามานั่งหลบฝนอยู่ในร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ พี่ชานเตือนเขาตั้งแต่เช้าตอนก่อนออกจากบ้านว่าวันนี้จะมีฝนตกตอนเย็นให้พกร่มติดกระเป๋ามาด้วย แหงล่ะใครจะไปพก พยากรณ์อากาศประเทศไทยเชื่อได้ที่ไหนกัน แต่ราวกับฝัน พยากรณ์ที่เคยสบประมาทว่าเชื่อไม่ได้กลับตรงเผงขึ้นมาเสียอย่างนั้น เมฆฝนดำทะมึนปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนมืดมิดไปหมด
รู้งี้เชื่อพี่ชานซะก็ดี ป่านนี้ได้กลับบ้านไปแก้แบบให้ลูกค้าเสร็จเป็นสิบแผ่นละ
สถาปนิกหนุ่มคิดในใจในขณะที่เหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่าง การจราจรหยุดนิ่งราวกับภาพถ่ายมีเพียงหยดน้ำจากฟากฟ้าเท่านั้นที่ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี จริงๆฝนตกกับรถติดของมันคู่กันอยู่แล้ว มีเธอต้องมีฉันแล้วเมื่อไหร่กันที่สถาปนิกอินจะมีแฟนกับเขาสักที(นั่น) ที่ไหนมีฝนตกที่นั่นมีรถติดเสมอ
เกือบชั่วโมงครึ่ง สายฝนยังคงเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักจนเริ่มปรากฏน้ำสีขุ่นไหลเอ่อขึ้นมาท่วมตามท้องถนน
กทม.ก็ยังรักษาคุณภาพท่อตันได้เป็นอย่างดี
เปรี้ยง!
“…!”
ร่างของอีกคนกระตุกเฮือกเมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังลั่นกึกก้อง มือเรียวของบาริสต้าหนุ่มเร่งรีบเก็บกวาดภาชนะหลากสีบนโต๊ะใส่ถาดไปเก็บที่หลังครัว ขายาวในกางเกงสแล็คสีดำก้าวผ่านอิทธิพัทธ์ไปในระยะประชิดราวกับไม่เห็นว่ามีใครนั่งอยู่ตรงนั้น อินมองตามเรียวขานั้นก้าวฉับๆจนหายลับไปในกรอบประตูสีน้ำตาลอย่างไม่วางตา
ชายหนุ่มหันรีหันขวางมองดูภายในร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดก็พบว่าไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากเขา อินยกชามะลิแก้วเล็กที่เย็นชืดขึ้นซดจนหมดหลังนั่งทอดหุ่ยอยู่นานเป็นชั่วโมง เสียงหึ่งๆของเครื่องปรับอากาศหยุดทำงานในเวลาไล่เลี่ยกับที่ไฟในร้านถูกหรี่จนดับลงไม่นานนักร่างของใครอีกคนที่กระวีกระวาดออกมาจากหลังร้านก็พุ่งตรงไปยังประตูกระจกหน้าร้านอย่างรวดเร็ว
เฮ้..เดี๋ยวนะ นี่ไม่เห็นหรอว่าเขายังนั่งอยู่น่ะ!? อิทธิพัทธ์เบิกตาโตก่อนสมองจะประมวลผลให้เขาตะโกนเรียกชายอีกคนที่กำลังพลิกป้ายแขวนหน้าร้านจาก OPEN ให้เป็น CLOSE
“คุณครับ!! อย่าเพิ่งไป!”
“เฮ่ย ใครอะ!!!”
“อย่าเพิ่งปิดคุณ ผมยังไม่ได้จ่ายตัง!”
“นั่นใคร อยู่ตรงไหน คนหรือผี ทำไมไม่เห็นเลยอะ”
“ตรงนี้ครับคุณ!”
“ไหน อยู่ไหน ไม่เห็นเลย โอ้ยย โดนแล้วไอ้โอ นะโมตัสสะ โอโดนผีหลอกแล้วแม่..”
โธ่ ก็รู้อยู่ว่าดำแต่เรียกไอ้มืดยังไม่เจ็บใจเท่าบอกว่ามองไม่เห็นเลย
คนผิวสีแทนที่จะขาวคิดในใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโบก บางทีแสงสว่างจากหน้าจอนี่อาจจะสว่างกว่าอนาคตของเขาอีกล่ะมั้ง
“คุณโอ ผมเป็นคนครับไม่ใช่ผี”
“แล้วทำไมตอนไปเก็บจาน ผมไม่เห็นคุณเลยอะ ไม่ใช่ผีแน่นะคุณ ผมมีพระนะ!”
“ผมไม่ใช่ผี ผมแค่ดำ…”
เฮ่อ…
…
“เบาๆสิคุณ รอยหยักในสมองผมไหลออกหมดทำไง”
เจ้าของแผลจอมซุ่มซ่ามบ่นขณะที่กำลังได้รับการปฐมพยาบาลง่ายๆจากชายหนุ่มอีกคน มันเป็นความผิดพลาดของเขาเองที่ไม่ยอมซ่อมป้ายไฟหน้าร้านเสียทีทั้งๆที่มีคนเตือนอยู่ตั้งหลายครั้งหลายคราว่ามันจะหลุด แล้วเคราะห์ร้ายนั่นก็ตกลงที่เจ้าของร้านเองนั่นแล ป้ายLED ที่กำลังจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่ได้ฟาดลงมาเข้าที่หน้าผากมนเต็มๆ ไม่มีซีจี ไม่มีตัวแสดงแทน สะเทือนยิ่งกว่าเก้าอี้ 4DX สมองของโอถึงกับเบลอไปชั่วขณะ สติสตังดูละม้ายคล้ายจะหลุดเลือน เหลือเพียงเลือดสดๆและรอยแผลจากขอบป้ายไฟ MR.O’s Café ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น ร้อนถึงลูกค้าอย่างอินที่ต้องวิ่งเข้ามาพยุงโอไว้ไม่ให้ล้มหงายหลังตึงไป กลัวหัวจะฟาดพื้นไปอีก ทีนี้ก็ได้อวสานโลกสวยกันพอดี
อินคิดว่าเขากำลังจะเป็นบ้า มันไม่ใช่ธุรกงธุรการอะไรของเขาเลยสักนิดที่จะต้องมาทำแผลให้คนคนนี้แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คงเป็นเพราะใบหน้าขาวใสที่อยู่ห่างจากเขาเพียงแค่คืบนั่น…
“โอ้ย เบาหน่อย”
“…”
“มองอะไร”
อินผละมือออกจากแผลของคนขี้บ่นมาพิจารณาถึงขนาดและความลึกของแผลว่าควรจะทำแค่ปฐมพยาบาลแล้วกลับบ้านหรือจะพาคนคนนี้ไปหาหมอก่อนดีแต่พอได้ยินน้ำคำกวนประสาทจากอีกฝ่ายอินก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าหากยังฤทธิ์มากได้ถึงเพียงนี้ไม่ต้องพาไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลก็คงไม่จะเสียหายอะไร
“ผมถามว่ามองอะไร หน้าผมเหมือนพ่อคุณหรอ”
“ก็แผลมันอยู่บนหน้าจะให้ผมมองนิ้วก้อยตีนคุณหรือไง อยากโดนทิงเจอร์ทิ่มตาก็ไม่บอก”
“หยาบคาย”
“โธ่ คุณ ใครกันแน่ที่หยาบคาย ลูกค้ายังนั่งอยู่ในร้านแท้ๆมาปิดไฟไล่แถมยังว่าผมเป็นผีอีก ถ้าไม่มีผมนะป่านนี้คุณได้ไปทักทายยมโลกแล้ว”
“แล้วใครใช้ให้ดำล่ะ”
“…”
ให้ตายสิ เห็นหน้าตาน่ารักๆแบบนี้แต่พูดจาแทงใจดำเป็นบ้า นี่คนหรือคมแฝก อินได้แต่กลอกตามองบน ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ รู้ดีว่าถึงเถียงกลับไปโอก็คงจะมีข้อโต้แย้งกลับมาได้เสมอ ฉะนั้นเงียบๆไปเสียคงเป็นทางเลือกที่ดีและง่ายที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เป็นเวลาทุ่มกว่าๆ คุณหมอจำเป็นติดพลาสเตอร์ยาลงบนรอยแผลด้วยมือที่สั่นระริกพอๆกับหัวใจที่สั่นระรัว ความใกล้ชิดเมื่อครู่ทำให้รู้ว่ากลิ่นของคนตรงหน้าหอมหวานเพียงใด แม้แต่ใบหน้าภายใต้หน้าม้าที่ตกลงมาปรกหน้าผากนั่นก็หวานละมุน ผิวนุ่มนิ่มเสียจนเผลอหวั่นไหว อินคิดว่าเขาคงจะทำงานหนักจนเบลอมากไปแล้วกระมังที่เผลอไผลไปกับหนุ่มร่างบางตรงหน้าเสียได้
“คุณชื่ออะไร”
เสียงจากอีกฝ่ายเรียกให้อินตื่นจากภวังค์
“อะ..อินครับ อิทธิพัทธ์”
“นามสกุล..”
“ธีรคุณานันต์ ถามทำไมเนี่ย?”
“ผมชื่อโอนะ เอ้า ให้”
บาริสต้าหนุ่มว่าแล้วยื่นบัตรแข็งสกรีนโลโก้ MR.O’s Café พร้อมเขียนว่า VIP ที่มีชื่อของอินมาให้
“อะไรครับ”
“บัตรสมาชิกไง ขอบคุณที่ทำแผลให้ผม ผมไม่รู้จะให้อะไรดีเอาบัตรไปเป็นของสมน้ำหน้าคุณแล้วกัน”
“สัมมนาคุณ”
“อืม นั่นแหละ”
“ขอบคุณครับแต่จริงๆผมไม่ชอบดื่มกาแฟ”
แต่จะชอบก็ได้ถ้าเป็นกาแฟของคุณโอ(?)
“แล้วทำไมมานั่งร้านกาแฟ?”
“ผมแค่มาหลบฝน”
ต่อไปจะมาหลบบ่อยๆก็ได้(มั้ง?)ครับ
“อ้อ…งั้นเอาไปให้แฟนคุณก็ได้”
“ผมยังไม่มีแฟน”
“ก็เอาไปให้คนอื่นสิ เพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง ใครก็ได้ ตามใจคุณเลย”
“คุณโอไม่อยากให้ผมมาหรอครับ?”
“อ้าว ก็เห็นคุณบอกไม่ชอบกินกาแฟ คุณคงไม่ได้มาหรอก ไม่ปะ....”
“ผมจะมาครับ”
!!!
…
[ 8 สิงหาคม 2558 , 19.45น.]
พยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครฯประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2558 มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
บาริสต้าหนุ่มที่ควบตำแหน่งเจ้าของร้านกาแฟ MR.O’s Café ซักผ้าเช็ดโต๊ะด้วยพลังทศกัณฐ์ 10 มือเป็นการระบายอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายในมาหลายวัน ริมฝีปากบางพร่ำบ่นถึงใครบางคนที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อวันก่อน
คนโกหก…
ไหนว่าจะมานี่ห้าวันแล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงา
คำพูดลอยๆของคนเรานี่มันเชื่อไม่ได้เลยจริงๆ
…
[ 11 สิงหาคม 2558 , 17.55น.]
พยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครฯประจำวันที่ 11 สิงหาคม 2558 มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
เมฆหนาปกคลุมท้องฟ้าจนไม่เห็นแสงแดด หลายวันมานี้ฝนไม่ตกเลยสักนิด โอรับออร์เดอร์ลูกค้าด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางวันก็เสิร์ฟน้ำผิดโต๊ะ บางครั้งก็จดออร์เดอร์มาผิด จิ้มเครื่องคิดเงินงกๆเงิ่นๆอยู่นานสองนานและเมื่อคิดถึงใบหน้าคร้ามแดดของคนที่เคยช่วยชีวิตไว้แล้วหัวใจก็วูบไหวแปลกๆ
วันนี้ฝนไม่ตก ชายหนุ่มนั่งเท้าคางมองออกไปข้างนอกอย่างเหม่อลอย รอคอยการมาของใครบางคนแต่เขาคนนั้นก็ไม่มา…
…
[ 22 สิงหาคม 2558 , 18.30น. ]
พยากรณ์อากาศกรุงเทพมหานครฯประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2558 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียสลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ซู่…
อากาศร้อนอบอ้าวตลอดวันเตือนว่าน่าจะมีฝน แล้วก็ไม่ผิด วันนี้ฝนตกจนฉ่ำปอด…
เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วที่อิทธิพัทธ์ไม่ได้แวะเวียนไปที่ MR.O’s Café เลย ช่วงนี้ที่บริษัทของอินงานยุ่งมากจนต้องทำโอทีทุกวันกว่าจะได้กลับบ้านก็สี่ห้าทุ่มแล้ว ร้านกาแฟของโอก็ไม่ได้เปิดบริการดึกมากขนาดที่สี่ทุ่มจะแวะไปนั่งเล่นได้ ปกติเพียงทุ่มสิบห้าโอก็จะเริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดเตรียมตัวปิดร้านแล้วอินเลยทำได้เพียงหอบเอาแบบบ้านของลูกค้าตรงกลับบ้านเพียงอย่างเดียว
วันนี้สถาปนิกอินเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จในเวลาเพียงหกโมงครึ่ง ผลของความพยายามอย่างหนักที่แบกงานกลับบ้านไปทำทุกวันได้ตอบแทนด้วยการทำให้อินเลิกงานไวกว่าทุกวันในสัปดาห์ที่ผ่านๆมา ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำกับอิทธิพัทธ์ชายหนุ่มผู้ไม่เคยพกร่ม เขาได้พาร่างของตนมาหยุดอยู่ที่ร้านกาแฟร้านเดิมอีกครั้ง ร้านที่มีบาริสต้าหน้าตาน่ารักๆคนนั้น
กริ๊ง
“คะ…คุณอิน ลมอะไรหอบคุณมาถึงนี่…”
เจ้าของร้านทักทายอินที่ยืนตัวเปียกชุ่มอยู่หน้าร้านด้วยแววตาตื่นตระหนก
“ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้น่ะครับ แรงซะด้วย”
“แย่จริง เปียกหมดเลย เข้ามาก่อนสิคุณ เดี๋ยวผมเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน”
“ขอบคุณครับ”
…
“คุณโอจะปิดร้านแล้วเหรอ?”
สถาปนิกหนุ่มทักขึ้นในขณะที่กำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผม เขาเห็นเหมือนว่าในร้านเริ่มจะเก็บกวาดไปบ้างแล้วเป็นบางส่วน
“อื้อ ฝนตกทีไรเงียบเหงาทุกที มีแต่คุณนั่นแหละที่ชอบโผล่มา..”
อินยิ้มให้กับคำตอบนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไรที่ทุกครั้งที่ฝนตกเขามักจะมาโผล่ที่ MR.O’s café ทุกที เสื้อผ้าที่โอเอามาให้เปลี่ยนก็หอมเสียจนเหมือนมีเจ้าของของมันกอดเอาไว้ตลอดเวลา อินแอบสูดดมกลิ่นหอมของเสื้อยืดเนื้อนุ่มอีกครั้งหัวใจชายหนุ่มก็เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากอก
หอมเหลือเกิน… อยากชวนมาซักผ้าร่วมกันที่บ้านจังครับ มีเคล็ดลับอะไรทำไมถึงซักผ้าได้หอมรัญจวนใจขนาดนี้
โอยืนเท้าแขนอยู่หน้าเครื่องคิดเงินพลางมองอินที่กำลังสะบัดผมไปมา ไม่รู้ทำไมแค่เช็ดผมจะต้องเท่ขนาดนั้น บอกตรงๆเลยว่าเพียงแค่เห็นอิทธิพัทธ์ยืนเปียกปอนอยู่ที่หน้าประตูร้าน ความโกรธที่สั่งสมมาหลายวันก็ได้อันตรธานหายไปอย่างน่าเจ็บใจ แค่ได้เห็นใบหน้าคร้ามแดดกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมบนออกสองสามเม็ดเปียกลู่แนบร่างกายไปทุกสัดส่วน ดวงใจดวงน้อยก็หล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่โอรู้สึกว่าผิวสีแทนนั่นเซ็กซี่จนแทบบ้า…
“คุณโอ..”
“…”
“โอ คุณโอ”
“อ๊ะ ครับ คุณอิน”
“ปิดร้านเลยก็ได้ครับ ผมจะกลับแล้ว”
“อ้าว ไม่ทานอะไรหน่อยเหรอ ทำไมรีบกลับจัง”
จะไปบอกได้ยังไงครับว่าแค่เห็นหน้าคุณผมก็อิ่มแล้ว (เอ้า อ้วกพร้อมกัน 1 2 3 แหวะ!)
“เอ่อ…”
“ฝนมันยังปรอยๆอยู่เลยนะคุณ จะกลับแล้วหรอ”
จะให้ผมใส่เสื้อผ้าคุณอยู่แบบนี้แล้วยังถูกคุณจ้องอย่างกับปลากัด ผมก็คนนะครับไม่ใช่พระอิฐพระปูน ผมทนไม่ไหวหรอก หัวใจจะวายเอา…
“คือว่า..”
“ให้ไปส่งมั้ย?”
บาริสต้าหนุ่มเสนอ
“อย่าเลยครับ ผมไม่อยากรบกวนคุณ เดี๋ยวกลับเองดีกว่า”
“ฮื้อ มาเถอะ ผมเต็มใจ ต่อไปถ้าฝนตกอีกก็มาหาผมนะ”
“แล้วถ้าผมอยากเจอคุณแต่ฝนมันไม่ตกขึ้นมาล่ะจะทำยังไงครับ?”
สิ้นสุดคำถาม ร่างสูง 182 เซนติเมตรของสถาปนิกหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินออกมายืนประจันหน้ากับคนหลังเคาน์เตอร์ บาริสต้าหนุ่มยืดตัวขึ้นจนเต็มความสูง ระดับสายตาของพวกเขาตรงกันพอดิบพอดี อิทธิพัทธ์มองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของอีกฝ่ายที่ส่องประกายแวววับในยามที่แสงไฟส่อง สันจมูกโด่งรับกับริมฝีปากกระจับที่มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ
เฮ่อ จะต้องตกหลุมรักคนคนเดิมอีกครั้งกันนะ…
“คุณก็พกร่มมาให้เหมือนฝนตกสิ”
“คุณโอ คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบพกร่ม”
.
.
.
“งั้นให้ผมเป็นร่มของคุณจะได้มั้ยครับ คุณอิน?”
- จบ -
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น